welcome ยินดีต้อนรับสู้บล็อกเกอร์ของนางสาวเบญจมาศ บริบูรณ์ จ้าจ้า

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558


สัปดาห์ที่ 7 วันที่ 17  กุมภาพันธ์ 2558



บันทึกอนุทินครั้งที่ 7
Inclusive Education Experiences Management for Early Childhood
วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวม
อาจารย์ผู้สอนอาจารย์ ตฤณ  แจ่มถิ่น
วัน/เดือน/ปี  วันอังคาร ที่ 17  กุมภาพันธ์ 2558 
เข้าสอนเวลา 14:10-17:30 น.




กิจกรรมวันนี้
อาจารย์นำเข้าสู่บทเรียนโดยการสอนทบทวนเพลงในสัปดาห์ที่แล้วมีทั้งหมด 5 เพลง ว่านักศึกษษยังจำเพลงที่อาจารย์สอนได้อยู่หรือป่าวแล้วอาจารย์ก็ขอให้นักศึกษากับไปทบทวนร้องเพลงอีกครั้งที่บ้านให้แม่นย้ำขึ้นกว่าเดิม

ภาพบรรยายกาศในการร้องเพลง








กิจกรรมต่อมา
วันนี้อาจารย์สอนเรื่องการสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
=ทักษะของครูและทัศนคติ
-เวลาสอนเด็กอย่าไปเอาใจใส่เด็กเพียงคนใดคนหนึ่งเพราะว่าครูจะต้องเอาใจใส่เด็กทุกคนให้เท่าเทียมกันและทั่วถึงเพราะถ้าครูมุ่งเอาใจใส่เด็กที่ตัวเองสนใจเพียงอย่างเดียวจะทำให้เด็กคนอื่นน้อยใจเป็นอย่างมาก

=การฝึกเพิ่มเติม
-อบรมระยะสั้น
-สื่อต่างๆ
(โรงเรียนจะให้ความช่วยเหลือครูถ้าหากโรงเรียนนั้นมีเด็กพิเศษอยู่ทางโรงเรียนจะจัดอบรมและแชร์ประสบการณ์ระหว่างครูด้วยกันเองหรือกับคูการศึกษษพิเศษ)

=การเข้าใจภาวะปกติ
-เด็กมักคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่าง
-ครูต้องเรียนรู้และมีปฎิสัมพันธ์กับเด็กปกติและเด็กพิเศษ
-รู้จักเด็กแต่ละคน
-มองเด็กให้เป็น'เด็ก'  ครูจะต้องมองเด็กให้เป็นเด็กจริงๆอย่ามองเขาให้แตกต่างไปจากคนอื่นและครูควรจะจำชื่อของเด็กได้ทุกคนทั้งชื่อจริง นามสกุล ชื่อเล่น บุคคลิก ลักษณะ ท่าทางต่างๆเป็นสิ่งจำเป็นที่ครูจะต้องทำ

=การคัดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า
-การเข้าใจพัฒนาการของเด็กจะช่วยให้ครูสามารถมองความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่ายขึ้นเพาะถ้าเรารู้จักเด็กเร็วมากเท่าไรก็จะทำให้เราแก้ไขและช่วยเหลือเขาได้เร็วเท่านั้นและเราจะต้องจดบันทึกพฤติกรรมเด็กเหล่านี้ให้ลึกซึ่งที่สุด

=ความพร้อมของเด็ก
-วุฒิภาวะของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกันไม่เยอะ
-แรงจูงใจ คือสิ่งที่เด็กทั้งห้องระดมความคิดว่าอยากจะเรียนอะไรก็จะทำให้เด็กเกิดความสนใจมากกว่าสิ่งที่ครูเสนอขึ้นมาเอง
-โอกาส

=การสอนโดยบังเอิญ
-ให้เด็กเป็นฝ่ายเริ่ม
-เด็กเข้ามาหาครูมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสสอนมากเท่านั้นแสดงว่าเด็กรักครูมากเท่านั้น
(การสอนโดยบังเอิญเป็นสิ่งที่สำคัญกับเด็กพิเศษมากที่สุด)การสอนโดยบังเอิญจะเกิดขึ้นจากการจัดกิจรรมที่ครูสอนเด็กขึ้นจากการสงสัยหรือสิ่งที่เด็กอยากรู้เพิ่มเติม

=ข้อปฎิบัติในกาสอนโดยบังเอิญ
1.ครูต้องพร้อมที่จะพบเด็ก
2.ครูต้องมีความสนใจเด็ก
3.ครูต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก
4.ครูต้องมีสื่ออุปกรณ์ล่อใจเด็ก
5.ครูต้องมีความตั้งใจจริงในการช่วยเหลือเด็กแต่ละคนให้ได้เรียนรู้
6.ครูจะต้องฝช้เวลาติดต่อไม่นานคือห้ามใช้เวลานานในการสนทนากับเด็กที่เกิดข้อสงสัยนานเกินไปให้เวลาสัก 5-10 นาทีพอเพราะจะทำให้เด็กคนอื่่นน้อยใจ
7.ครูต้องทำให้เป็นเรื่องสนุก

=อุปกรณ์
-มีลักษณะง่ายๆ
-ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
-เด็กพิเศษได้เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติ
-เด็กปกติเรียนรู้ที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กพิเศษ
(อุปกรณ์หรือของเล่นที่เล่นได้หลายอย่างเช่น บล็อก ดินน้ำมัน โดมิโน แป้งโด)

=ตารางประจำวัน
-เด็กพิเศษไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่ประจำได้
-กิจกรรมต้องเรียงลำดับเป็นขั้นเป็นตอนและทำนายได้
-เด็กจะต้องรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ
-การสลับกิจกรรมที่อยู่เงียบๆกับกิจกรรมที่เคลื่อนไหวมากๆ
-คำนึงถึงความพอเหมาะและเวลา

ทัศนคติครู
=ความยืดหยุ่น
-การแก้ไขแผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานะการณ์
-ยอมรับขอบเขตความสามารถของเด็ก
-ครูต้องสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน

=การใช้สหวิทยาการ
-ใจกว้างต่อคำแนะนำของบุคคลในอาชีพอื่นๆนเป็นครูต้องหัดรู้จักฟังคำแนะนำจากอาชีพอื่นบ้างเพื่อที่จะเป็นความรู้และนำมาปรับใช้กับกับกาเรียนการสอนในห้องเรียน

=การเปลี่ยนพฤติกรรม
=เด็กทุกคนสอนได้
-เด็กเรียนไม่ได้เพาะไร้ความสามารถ
-เด็กเรียนไม่ได้เพราะขาดโอกาส
=เทคนิคการเสริมแรง
-แรงเสริมทางสังคมจากผู้ใหญ่
>ความสนใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กนั้นสำคัญ
>มีแน้วโน้มจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็กและมักเป็นผลในทันที
>หากผู้ใหญ่ไม่สนใจพฤติกรมนั้นๆก็จะลดลงและหายไป

=วิธีกาแสดงออกถึงแรงเสริมจากผู้ใหญ่
-ตอบสนองด้วยวาจา ชม หรือเรียกชื่อเด็ก
-การยืนหรือนั่งใกล้เด็ก การดูผลงานและชื่นชม
-พยักหน้ารับ ยิ้ม ฟัง
-สัมผัสทางกาย
-ให้ความช่วยหลือร่วมกิจรรมกับเด็ก

=หลักการให้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย
-ครูต้องให้แรงเสริมทันทีที่เด็กมีพฤติกรรมอันพึ่งประสงค์
-ครูต้องละเว้นความสนใจทันทีและทุกครั้งเมื่อเด็กทำพฤติกรรมที่ไม่พึ่งประส
งค์
-ครูควรให้ความสนใจเด็กนานเท่าที่เด็กมีพฤติกรรมที่พึ่งประสงค์
(เด็กพิเศษจะให้แงเสริมเขาโดยการชื่นชมในสิ่งที่เขาทำแต่จะต้องเป็นสิ่งที่ถูกเท่านั้น)
=การแนะนำหรือบอกบท
-ย่อยงาน
-ลำดับความยากง่าย
-การลำดับงานเป็นการเสริมแรงเพื่อให้เด็กค่อยๆก้าวไปสู่ความสนใจ
-การบอกบทจะค่อยๆน้อยลงตามลำดับ
(สำคัญมากคือการที่เรากำกับบอกเป็นขั้นตอนที่ละขั้นตอนเป็นลำดับเพาะว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กพิเศษ)
=ขั้นตอนการเสริมแรง
-สังเกตและกำนดจุดมุ่งหมาย
-วิเคราะห์งานกำหนดจุดประสงค์ย่อยๆในงานแต่ละขั้น
-สอนจากง่ายไปยาก
-ให้แรงเสริมทันทีเมื่อเด็กทำได้หรือเมื่อเด็กพยายามอย่างเหมาะสม
-ลดการบอกบทเมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะก้าวขั้นต่อไป
-ให้แรงเสริมเฉพาะพฤติกรมที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด
-ทีละขั้นไม่เร่งัด ยิ่งเล็กเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น
-ไม่ดุหรือตี

=การกำหนดเวลา
-จำนวนและความถี่ของแรงเสริมที่ให้พฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กต้องมีความเหมาะสม

=ความต่อเนื่อง
-พฤติกรรมทุกๆอย่างในชีวิตประจำวันต่อเนื่องต่อเนื่องกันระหว่างพฤติกรรมย่อยๆหลายๆอย่างรวมกัน
-สอนแบบก้าวไปข้างหน้า หรือย้อนมาข้างหลังเป็นวิธีที่สำคัญ
คือ การก้าวไปข้างคือการสอนจากการก้าวไปข้างหน้าคือเรียงลำดับจากขั้นแรกก่อนจะสอนให้เด็กทำเองในขั้นแรกและขั้นต่อไปช่วยเด็กทำ 
การสอนแบบย้อนมาข้างหน้าคือช่วยตั้งแต่แรกและสุดท้ายให้ทำเอง

=การลดหรือหยุดแรงเสริม
-ครูจะงดแรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
-ทำอย่างอื่นและไม่สนใจ
-เอาอุปกรณ์หือของเล่นออกไปจากเด็ก
-เอาเด็กออกจากของเล่น

                                                                                                    

ภาพบรรยากาศการเรียนการสอน









                                          

การนำไปประยุกต์ใช้
สามารถนำความรู้จากสิ่งที่อาจารย์สอนไปใช้สอนเด็กได้จริงๆและยังรู้วิธีการรับมือกับเด็กพิเศษหรือเด็กปกติอย่างไห่การปรับตัวให้เข้ากับเด็กการรับมอกับเด็กและสิ่งที่ครูควรทำกับเด็กหรือสิ่งที่ครูไม่ควรทำกับเด็กและสามารถนำวิธีการให้แรงเสริมกับเด็กว่าครูควรที่จะให้แรงเสริมกับเด็กอย่างไรจากสิ่งที่เด็กทำดีหรือสิ่งที่เด็กประพฤติไม่ดีเพราสิ่งเหล่านี้เราสามารถนำไปใช้ได้จริงในอนาคตเพราะว่าเราจะต้องเจอสถานการณ์แบบนี้จริงๆ

ประเมินตนเอง
วันนี้เข้าเรียนตรงเวลาแถมยังได้ตัวปั๊มเด็กดีอีก1ดวงและในวันนี้ดิฉันตั้งใจเรียนเหมือนเดิมเพาะว่าอยากได้ความรู้หรือประสบการณ์ต่างๆที่อาจารย์ให้มาปับใช้กับตัวเองเมื่อเราไปเจอสถานการณ์ในอนาคตข้างหน้าจริงๆมีคุยยุกหยิกบ้างแต่น้อย

ประเมินเพื่อน
วันนี้เพื่อนบ้างส่วนก็ให้ความร่วมมือในการเรียนเป็นอย่างดีแต่บางคนก็คุยกันเสียงดังไม่มีสมาธิในการเรียนลยเียกง่ายๆว่าสติแตกเป็นอย่างมากอาจารย์พูดแล้วพูดอีก

ประเมินอาจารย์
วันนี้อาจารย์เตียมสื่อการเรียนกาสอนมาเป็นอย่างดีตั้งใจถ่ายทอดความู้และประสบการณ์ดีๆให้กับนักศึกษาในกาสอนของอาจารย์มีเทคนิคมากมายพร้อมกับกาแชร์สิ่งต่างๆมากมายแต่ในวันนี้อาจารย์ค่อนข้างที่จะแวะปั๋มบ่อยจนเกือบสอนไม่ทันแต่สุดท้ายก็ทันเพาะว่าวันนี้อาจารย์จะปล่อยก่อนเวลาเพราะว่าจะให้นักศึกษษไปเตรียมตัวประชุมค่ะ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น